มุ่งมั่นกับการทำให้ชีวิตดีขึ้น

ทีมนักวิทยาศาตร์ของยูนิซิตี้ได้ทุ่มเทและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์และโปรแกรมที่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยในเรื่องสุขภาพของระบบการเผาผลาญ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก

หลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์

กว่า 30 ปีที่ยูนิซิตี้ได้มุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่รวมสารอาหารที่สําคัญต่อร่างกาย ผลิตด้วยกระบวนการที่ได้มาตรฐาน โดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ​​และพันธกิจที่มุ่งมั่นในการทำชีวิตให้ดีขึ้น (Make Life Better) ยูนิซิตี้ มั่นใจว่าความแข็งแกร่งทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เราสั่งสมมานั้นพร้อมจะทำให้วันพรุ่งนี้ดียิ่งกว่าด้วยหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ใน 3 ด้าน ประกอบด้วย

การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์โดยยึดหลักการทางวิทยาศาสตร์

​เพราะเชื่อมั่นว่าวิทยาศาสตร์เป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่ทำ ทีมวิจัยและพัฒนาของยูนิซิตี้ จึงไม่หยุดยั้งที่จะแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาสารประกอบใหม่ๆ ส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจะช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรง ยูนิซิตี้ได้คัดเลือกนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนทีมวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของเราด้วยการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครมาหลอมรวมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมด้านงานวิจัยและพัฒนาเพื่อการเติบโตสู่อนาคตเพราะเชื่อมั่นว่าวิทยาศาสตร์เป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่ทำ ทีมวิจัยและพัฒนาของยูนิซิตี้ จึงไม่หยุดยั้งที่จะแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาสารประกอบใหม่ๆ ส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจะช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรง ยูนิซิตี้ได้คัดเลือกนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนทีมวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของเราด้วยการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครมาหลอมรวมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมด้านงานวิจัยและพัฒนาเพื่อการเติบโตสู่อนาคต

กำหนดเกณฑ์การทดสอบอย่างเคร่งครัด

​ตั้งแต่ขั้นตอนการเฟ้นหาวัตถุดิบไปจนถึงการพัฒนาให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ หัวใจสำคัญของทุกขั้นตอนคือ “คุณภาพ” ยูนิซิตี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ด้านวัตถุดิบเพื่อการผลิตและร่วมกันกำหนดมาตรการควบคุมคุณภาพให้มั่นใจว่าจะได้วัตถุดิบที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คุณสมบัติตรงตามต้องการ และเพื่อสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค ยูนิซิตี้ ยังได้ส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมทดสอบกับหลากหลายองค์กรที่ได้รับการยอมรับระดับโลกจนสามารถคว้ารางวัลและใบรับรองคุณภาพในด้านต่างๆ อาทิ NSF, cGMP, TGA, Kosher, Halal และ ISO-9001

กระบวนการผลิตที่มากด้วยคุณภาพ

ในปัจจุบันแบรนด์สินค้าด้านอุปโภคบริโภคจำนวนมาก มุ่งเน้นที่การพัฒนาแบรนด์มากกว่าการให้ความสำคัญต่อคุณภาพในการผลิต ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นกำหนดนโยบายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้ซัพพลายเออร์แทน ซึ่งต่างจากวิธีคิดของยูนิซิตี้ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตนเอง จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต้องลงทุนหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อจัดเตรียมตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ วิธีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนา ไปจนถึงการเสาะหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เข้ามาร่วมเป็นกลไกสำคัญหลักๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด

การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์โดยยึดหลักการทางวิทยาศาสตร์

​เพราะเชื่อมั่นว่าวิทยาศาสตร์เป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่ทำ ทีมวิจัยและพัฒนาของยูนิซิตี้ จึงไม่หยุดยั้งที่จะแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาสารประกอบใหม่ๆ ส่วนผสมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจะช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรง ยูนิซิตี้ได้คัดเลือกนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนทีมวิทยาศาสตร์ชั้นยอดของเราด้วยการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครมาหลอมรวมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมด้านงานวิจัยและพัฒนาเพื่อการเติบโตสู่อนาคต

กำหนดเกณฑ์การทดสอบอย่างเคร่งครัด

​ตั้งแต่ขั้นตอนการเฟ้นหาวัตถุดิบไปจนถึงการพัฒนาให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ หัวใจสำคัญของทุกขั้นตอนคือ “คุณภาพ” ยูนิซิตี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ด้านวัตถุดิบเพื่อการผลิตและร่วมกันกำหนดมาตรการควบคุมคุณภาพให้มั่นใจว่าจะได้วัตถุดิบที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่คุณสมบัติตรงตามต้องการ และเพื่อสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค ยูนิซิตี้ ยังได้ส่งผลิตภัณฑ์เข้าร่วมทดสอบกับหลากหลายองค์กรที่ได้รับการยอมรับระดับโลกจนสามารถคว้ารางวัลและใบรับรองคุณภาพในด้านต่างๆ อาทิ NSF, cGMP, TGA, Kosher, Halal และ ISO-9001

กระบวนการผลิตที่มากด้วยคุณภาพ

ในปัจจุบันแบรนด์สินค้าด้านอุปโภคบริโภคจำนวนมาก มุ่งเน้นที่การพัฒนาแบรนด์มากกว่าการให้ความสำคัญต่อคุณภาพในการผลิต ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นกำหนดนโยบายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้ซัพพลายเออร์แทน ซึ่งต่างจากวิธีคิดของยูนิซิตี้ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตนเอง จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เราต้องลงทุนหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อจัดเตรียมตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ วิธีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนา ไปจนถึงการเสาะหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เข้ามาร่วมเป็นกลไกสำคัญหลักๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด

ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์

trusted physician

Prescribers’ Digital Reference (PDR)

The Prescribers’ Digital Reference, หรือที่ผ่านมาเรียกว่า Physicians’ Desk Reference คือ แหล่งข้อมูลอ้างอิงรายชื่อยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ให้บริการด้านสุขภาพ โดยมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ยูนิซิตี้ได้ทำการค้นคว้าโดยทำงานวิจัยทางด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ ผลิตภัณฑ์ของเรา 17 รายการได้รับการตีพิมพ์ลงใน PDR นี้ด้วย

รายชื่อผลิตภัณฑ์

ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์

Prescribers’ Digital Reference (PDR)

The Prescribers’ Digital Reference, หรือที่ผ่านมาเรียกว่า Physicians’ Desk Reference คือ แหล่งข้อมูลอ้างอิงรายชื่อยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ให้บริการด้านสุขภาพ โดยมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ยูนิซิตี้ได้ทำการค้นคว้าโดยทำงานวิจัยทางด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ ผลิตภัณฑ์ของเรา 17 รายการได้รับการตีพิมพ์ลงใน PDR นี้ด้วย

รายชื่อผลิตภัณฑ์
trusted physician

“ผมเชื่อว่า เราทุกคนที่ยูนิซิตี้สามารถช่วยให้ทุกครอบครัวเปลี่ยนพื้นฐานแนวทางด้านสุขภาพ
โดยการแบ่งปันข้อมูลด้านการดูและสุขภาพในการดำเนินชีวิต และผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต”

สจ๊วต ฮิวส์ ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัทยูนิซิตี้

“ผมเชื่อว่า เราทุกคนที่ยูนิซิตี้สามารถช่วยให้ทุกครอบครัวเปลี่ยนพื้นฐานแนวทางด้านสุขภาพ
โดยการแบ่งปันข้อมูลด้านการดูและสุขภาพในการดำเนินชีวิต และผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต”

สจ๊วต ฮิวส์ ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัทยูนิซิตี้

Essential Articles to Read

เรียนรู้เพิ่มเต…

ทำไมผลิตภัณฑ์เส…

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเรา และดูรายละเอียดคำถาม สำหรับรายการต่างๆ

Maltodextrin คืออะไร? ทำไมต้องใช้ Maltodextrin ในผลิตภัณฑ์?

มอลโทเดกซ์ทริน (maltodextrin) คือ คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) ที่ได้จากการย่อยสลายโมเลกุลของสตาร์ซ (starch) จากพืชให้เป็นสายสั้นๆ ของน้ำตาลกลูโคส (glucose) ถูกนำมาใช้เป็นสารเติมแต่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างขว้างขวาง ช่วยป้องกันการเกาะตัวของส่วนผสมในอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นอกจากนี้ ยังใช้ใส่เพื่อสร้างความหนืดให้อาหารในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม, ซอสปรุงรส และน้ำเกรวี

 

นอกจากนี้ บางผลิตภัณฑ์ของเรายังมีมอลโตเดกซ์ทรินอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า เส้นใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำ (Resistant Maltodextrin) ผลิตจากแป้งข้าวโพด จะไม่ถูกย่อยโดยเอนไซม์ย่อยอาหาร และไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำกว่ามอลโตเดกซ์ทรินโดยทั่วไป ทั้งยังเป็นอาหารของเชื้อจุลลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ มีคุณสมบัติเป็น Prebiotic ช่วยรักษาสมดุลของระบบขับถ่าย โดยเพิ่มความถี่ในการขับถ่าย เพิ่มมวล จึงง่ายต่อการขับถ่ายมากยิ่งขึ้น

สหรัฐอเมริกามีการควบคุมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างไร?

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในสหรัฐอเมริกาถูกควบคุมอยู่ภายใต้บทบัญญัติอาหารเสริมสุขภาพและการศึกษา พ.ศ. 2537 (หรือที่เรียกว่า DSHEA ) โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะต้องถูกระบุให้ชัดเจนว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่สำคัญจะต้องมีส่วนประกอบอาหารอย่างน้อยหนึ่งอย่างดังต่อไปนี้: วิตามิน แร่ธาตุ สมุนไพร หรือสารจากพืชอื่นๆ กรดอะมิโน และสารอื่นๆ อาทิ เอนไซม์ และเมแทบอไลต์

 

ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ยาโดยทั่วไป เพราะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ก่อนวางจำหน่าย  อย่างไรก็ตามก็ยังมีกฎระเบียบมากมายที่ DSHEA กำหนดขึ้นเพื่อความปลอดภัยและการติดฉลากข้อมูลผลิตภัณฑ์ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกายังกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์

 

ยูนิซิตี้ มีมาตรฐานคุณภาพที่เคร่งครัดเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของ FDA และ DSHEA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ เรายังมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ได้รับการรับรองจากเหล่าองค์กรชั้นนำ ได้แก่  การรับรองสารต้องห้ามสำหรับนักกีฬา (NSF Certified for Sport) และการรับรองคุณภาพกระบวนการการผลิตตามมาตรฐาน GMP 

ผู้ใหญ่ควรบริโภคคาเฟอีนปริมาณเท่าไรจึงจะปลอดภัย?

เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นสอดคล้องกันว่า วัยผู้ใหญ่ควรบริโภคคาเฟอีนมากสุด 400 กรัมต่อวัน ในขณะที่สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 200 กรัมต่อวัน โดยปกติโซดาที่มีคาเฟอีนจะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 30-40 มิลลิกรัม และเครื่องดื่มกาแฟที่มีคุณภาพสูง จะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 75-100 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม ความไวต่อฤทธิ์ของคาเฟอีนในคนแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ดังนั้น การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนจึงควรปรับให้เหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละคน

เราควรบริโภคโปรตีนปริมาณเท่าไรต่อวัน?

วัยผู้ใหญ่ควรบริโภคโปรตีนอย่างน้อย 0.36 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ต่อวัน ตัวอย่างเช่น หากเรามีน้ำหนักตัวที่ 150 ปอนด์ อัตราการบริโภคโปรตีนที่เหมาะสมของเราจะอยู่ที่ 54 กรัมต่อวัน แต่ในผู้ที่ต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้ออาจต้องการบริโภคเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย เช่น อายุ เพศ ประเภทกิจกรรมที่ทำ ความสมบูรณ์ของร่างกาย และการพิจารณาปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ และเมื่อต้องการวางแผนด้านโภชนาการเพื่อให้ได้สารอาหารต่างๆ ให้ตรงตามต้องการ แนวทางที่เหมาะสมที่สุดคือ การขอรับคำปรึกษาจากนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำปรึกษาและร่วมวางโปรแกรมแบบเฉพาะอย่างเหมาะในแต่ละบุคคล

Find More FAQs